เนื่องในโอกาสวันชาติ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินกล่าวสุนทรพจน์ “มอบไต้หวันที่ดีกว่าให้แก่โลก”
เมื่อเช้าวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ครบรอบ 111 ปี ภายใต้หัวข้อ “มอบไต้หวันที่ดีกว่าให้แก่โลก เกาะแห่งความแข็งแกร่งและทรหด”
โดยสาระสำคัญ 4 ส่วน มีดังนี้ :
ส่วนที่ 1 : ไต้หวันก้าวหน้าสวนกระแส ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19
วันที่ 13 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ไต้หวันจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดน แสดงให้เห็นว่า ไต้หวันได้หลุดพ้นจากความอึมครึมแห่งโรคระบาด และก้าวเข้าสู่การใช้ชีวิตตามปกติ ประธานาธิบดี ขอบคุณทุกคนในประเทศ ที่อุทิศตนอย่างเต็มที่และทำงานอย่างยากลำบาก ในการป้องกันโรคระบาด รวมถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนทุกคน ที่นำพาให้ไต้หวันก้าวไปข้างหน้า ให้กลายเป็นประเทศที่ดียิ่งขึ้น
ส่วนที่ 2 : ก่อนที่ความท้าทายครั้งใหม่จะมาถึง ต้องเผชิญหน้าอย่างสุขุมเยือกเย็น และร่วมกันแก้ไขปัญหา
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินย้ำว่า ในยุคหลังโควิด ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงของภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจตามมา การแตกตัวของห่วงโซ่อุปทานโลกที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อตัวใหม่ ภัยธรรมชาติที่รุนแรงเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างสุดขั้ว ระเบียบของโลกแห่งเสรีภาพที่ถูกท้าทาย ไต้หวันจึงต้องเผชิญหน้าอย่างรอบคอบ และแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ส่วนที่ 3 : เสริมสร้าง “ความทรหด 4 ประการ” เพื่อสร้างประเทศให้มีความแข็งแกร่ง
ในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีปีนี้ สาระสำคัญอยู่ที่การกล่าวถึงการเสริมสร้าง “ความทรหด 4 ประการ” ได้แก่ด้าน “เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม” : ตอบสนองความผกผันของภาวะเศรษฐกิจ วางแผนอนาคตให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ด้าน“เครือข่ายความมั่นคงทางสังคม”: การมีสวัสดิการที่เพียบพร้อม เสริมสร้างเครือข่ายความมั่นคงทางสังคม ด้าน “ระบบการเมืองแบบเสรีประชาธิปไตย” : ปลูกฝังระบอบประชาธิปไตยในเชิงลึก แสวงหาความสนับสนุนจากประชาคมโลก และ ด้าน“แสนยานุภาพในการป้องกันประเทศ” ที่เปี่ยมด้วยความล้ำลึกและแข็งแกร่ง : ยกระดับแสนยานุภาพด้านการป้องกันประเทศ สร้างความ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่ประชาชน
ส่วนที่ 4 มอบไต้หวันที่ดีกว่าให้แก่โลก
สุนทรพจน์หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ประธานาธิบดีไช่ฯ เคยกล่าวไว้ว่า จะสร้างประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาด ไปทั่วโลกในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ผลงานในด้านต่างๆ ของไต้หวัน อาทิ การป้องกันโรคระบาด และด้านเศรษฐกิจ กลายเป็นจุดสนใจและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าไต้หวันเป็น “เกาะแห่งความทรหด”
ประธานาธิบดีไช่ฯ กล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งการดำรงตำแหน่งที่เหลืออยู่ จะสร้างไต้หวันให้เป็น “ประเทศแห่งความทรหด” ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงและประชาธิปไตยของไต้หวันให้เป็นไปตามทิศทางการเติบโตของโลก เพื่อให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของโลก และมอบไต้หวันที่ดีกว่าให้แก่โลก
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:เจนนรี ตันตารา
งานวันชาติช่วงค่ำที่นครเถาหยวน มีผู้ร่วมงาน 2 หมื่นคน
งานวันชาติครบรอบปีที่ 111 ของสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ภายใต้สโลกแกน “ร่วมด้วยช่วยกัน ปกป้องผืนแผ่นดินไต้หว้น” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ณ ลาน Taoyuan Sunlight Arena ในนครเถาหยวน งานนี้มีการแสดงมากมาย อาทิ การแสดงจากชนเผ่าพื้นเมืองไต้หวัน การแสดงจากวงออร์เคสตรา การแสดงเต้นรำ รวมไปถึงการแสดงร้องเพลง โดยมีแขกผู้มีเกียรติสำคัญจากหลากหลายวงการและชาวจีนโพ้นทะเลมากถึงสองหมื่นคนมาร่วมงาน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันชาติ
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน(蔡英文) ผู้นำสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) กล่าวว่า สโลแกนวันชาติปีนี้คือ “ร่วมด้วยช่วยกัน ปกป้องผืนแผ่นดินไต้หว้น” เนื่องจากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ชาวไต้หวันมีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย รวมไปถึงการร่วมด้วยช่วยกันก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 ไต้หวันกำลังจะเปิดประเทศในวันที่ 13 ต.ค. นี้ ขอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากนานาชาติที่มาเยือนไต้หวัน ร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในส่วนของการเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต กองทัพไต้หวันยืดหยัดอยู่ที่แนวหน้าอย่างสุขุม เตรียมพร้อมปกป้องความปลอดภัยของประชาชนทุกคนอย่างไม่หวั่นเกรง ขอเพียงแค่ประชาชนทุกคนมีความสามัคคีเป็นหนึ่งใจเดียวกัน ก็จะสามารถปกป้องผืนแผ่นดินไต้หวันได้อย่างแน่นอน
ถงเจิ้นหยวน (童振源) ประธานคณะกรรมการกิจการชาวจีนโพ้นทะเล (Overseas Community Affairs Council , OCAC) กล่าวว่า ปีนี้มีชาวจีนโพ้นทะเลเข้าร่วมงานวันชาติมากกว่า 2,000 คน พวกเขาต่างเดินทางมาจากแดนไกลและต้องเข้ารับการกักตัว เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ แสดงความรักและพลังการสนับสนุนที่พวกเขามีต่อประเทศ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ทำงานอยู่ทั่วทุกสารทิศบนโลก โดยในช่วงเวลาสำคัญจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ไต้หวันเข้าร่วมองค์กรระหว่างประเทศ และยังมีบทบาทในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและเครือข่ายสังคมในท้องถิ่น เพื่อให้ทั่วโลกมองเห็นและได้ยินเสียงจากไต้หวัน
นายเจิ้งเหวินช่าน (鄭文燦) ผู้ว่าการนครเถาหยวน กล่าวว่า นครเถาหยวนเป็นหนึ่งใน 6 เมืองใหญ่ของไต้หวัน ที่มีนักธุรกิจชาวไต้หวันเดินทางไปมามากที่สุด เป็นเมืองที่มีอัตราประชากรเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุด และเป็นเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด ปีนี้เป็นครั้งที่สองที่นครเถาหยวนเป็นเจ้าภาพจัดงานวันชาติในตอนค่ำ หลังจากไต้หวันเปิดประเทศในวันที่ 13 ตุลาคม การดำเนินชีวิตจะค่อยๆกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของประชาชน การบริโภค การท่องเที่ยว การลงทุน รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ของไต้หวัน จะได้รับการฟื้นฟูอย่างแน่นอน
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:เจนนรี ตันตารา
ปธน. ไช่อิงเหวินชี้ ไต้หวันเป็นพันธมิตรที่ขาดไม่ได้ ในโครงสร้างใหม่การพัฒนาอินโด-แปซิฟิก
ปธน. ไช่อิงเหวินกล่าวในที่ประชุม Yushan Forum สมัยที่ 6 ในเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ว่า การผลักดันนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ในปี 2016 ของไต้หวันมีการร่วมมือกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ในด้านการค้าและการลงทุน เทคโนโลยี การรักษาพยาบาล ตลอดจนการติดต่อแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาในภาคเอกชน มีผลสำเร็จที่ดีเป็นที่ยอมรับของมิตรประเทศ และประเทศที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน ปีที่แล้วการค้าของไต้หวันกับประเทศมุ่งใต้ใหม่ มีมูลค่าสูงถึง 149,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในช่วง มกราคม – กรกฎาคม 2022 การลงทุนของไต้หวันใน 18 ประเทศมุ่งใต้ใหม่มีมูลค่า 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 43.9% ของการลงทุนต่างประเทศทั้งหมด ไตรมาสแรกของปี 2022 นี้ ผลตอบแทนการลงทุนในประเทศมุ่งใต้ใหม่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สูงแซงหน้าผลตอบแทนการลงทุนในจีนเป็นครั้งแรก
ปธน. ไช่ กล่าวว่า “ไต้หวันเป็นประเทศแนวหน้าในการเผชิญกับคุกคามจากลัทธิเผด็จการ พวกเรามีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่การผลิตของโลก ในโครงสร้างใหม่การพัฒนาอินโด-แปซิฟิกไต้หวันเป็นพันธมิตรที่ขาดไม่ได้”
ปธน. ไช่กล่าวด้วยว่า นโยบายมุ่งใต้ใหม่คือยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไต้หวัน ทำให้เกิดความร่วมมือเศรษฐกิจและความมั่นคงในภูมิภาค ไต้หวันคาดหวังร่วมมือกับประเทศที่ร่วมประชุม Yushan Forum ในครั้งนี้ ร่วมกันสร้างความรุ่งเรืองและความสงบมั่นคงในอินโด-แปซิฟิก
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:แสงชัย กิตติภูมิวงศ์
กองทหารเกียรติยศไต้หวันต้อนรับประธานาธิบดีปาเลา พร้อมย้ำว่าปาเลายืนหยัดสนับสนุนไต้หวัน
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ประธานาธิบดี Surangel S. Whipps, Jr แห่งปาเลาเดินทางมาเยือนไต้หวันตามคำเชิญของรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันชาติปีนี้ โดยช่วงเช้าวันนี้ ( 6 ต.ค.) ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน (蔡英文) ได้จัดกองทหารเกียรติยศต้อนรับ ณ จัตุรัสศิลปะวัฒนธรรมของโรงละครและหอแสดงดนตรีแห่งชาติ (National theater and concert hall) ปธน. ไช่ฯ กล่าวว่า เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดี Surangel S. Whipps, Jr เป็นผู้นำคนแรกที่เดินทางมาเยือนไต้หวันหลังเกิดสถานการณ์โรคระบาด และทั้ง 2 ประเทศยังเปิดนโยบาย travel bubble เป็นชาติแรกของเอเชีย ดังนั้นในฐานะตัวแทนของรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันรู้สึกยินดีอย่างถึงที่สุดที่ได้ต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีปาเลา
ปธน.ไช่อิงเหวินชี้ว่า ในเดือนธันวาคมนี้ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างปาเลาและไต้หวันจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 23 จึงหวังเป็นอย่างยิ่งการมาเยือนไต้หวันของประธานาธิบดีปาเลาครั้งนี้จะสามารถกระชับความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ด้านประธานาธิบดีปาเลากล่าวสุนทรพจน์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับปาเลาตั้งอยู่บนพื้นฐานของมิตรภาพและการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งสองต่างมีความแน่วแน่ในการปกป้องสันติภาพ ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ นอกจากนี้ทั้งไต้หวันและปาเลายังมีภูมิประเทศเป็นเกาะเหมือนกัน ดังนั้นความมุ่งมั่นในการปกป้องรักษาทรัพยากรทางทะเลยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ลึกแน่นแฟ้น อุดมการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ทำให้ทั้งสองประเทศมีการขยายความร่วมมือในหลายด้าน ไต้หวันจึงเป็นประเทศพันธมิตรที่มั่นคงแน่นแฟ้นของปาเลามาโดยตลอด
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:มนภรณ์ ไชยวุฒิ
หยุดยาววันชาติ เกาสงเตรียมควบคุมการจราจรในแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่ฮัวเหลียนมีอัตราจองที่พักเพิ่ม 60%
ใกล้ถึงช่วงหยุดยาววันชาติไต้หวัน กองการขนส่ง นครเกาสง ประกาศแผนควบคุมการจราจรตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เนื่องจากในช่วงวันหยุดจะมีปริมาณรถมากกว่าปกติ 10-20% โดยเฉพาะถนนสายหลักที่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างป๋อเอ้อ (The Pier-2 Art Center) ซึ่งในช่วงดังกล่าวจะมีการจัดนิทรรศการศิลปะพอดี ดังนั้นเพื่อไม่ให้การจราจรแออัดจนส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์การท่องเที่ยว จึงแนะนำให้ประชาชนใช้บริการขนส่งในการเดินทาง ส่วนถนนที่ผ่านซีจื่อวาน (Sizihwan), ฉีจิน (Qijin), ฉีซาน (Qishan), เหม่ยหนง (Meinong), Fo Guang Shan (佛光山) และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ก็คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรแออัดตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึงตอนเย็นประมาณ 19.00 น. จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางสัญจรในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่เมืองฮัวเหลียนก็มีอัตราการจองห้องพักช่วงวันหยุดยาวเพิ่มขึ้น 60% กรมทางหลวงคาดว่าจะมีประมาณรถที่เดินทางไปยังฮัวเหลียนในวันแรกของการหยุดยาวประมาณ 16,000 คันครั้ง ตำรวจจราจรเมืองฮัวเหลียนจึงมีกำหนดจุดชมวิวตามเส้นทางต่างๆ หรือสถานีรถไฟย่อยให้เป็นจุดพักรถ เพื่อลดความแออัดของการจราจรที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองฮัวเหลียน ด้านสมาคมโรงแรม เมืองฮัวเหลียน เผยว่า หลายปีที่ผ่านมาช่วงหยุดยาววันชาติจะมีอัตราการจองห้องพักสูงถึง 80% แต่ปีนี้เนื่องจากผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้ประชาชนมีความวิตกกังวลในการมาท่องเที่ยว รวมถึงหลายชุมชนที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวก็ยังฟื้นฟูไม่แล้วเสร็จ จึงทำให้อัตราการจองที่พักในปีนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมา
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:มนภรณ์ ไชยวุฒิ
พลุฉลองวันชาติไต้หวันปีนี้ย้ายไปจัดที่เมืองเจียอี้ สวยงามตระการตาจากโดรนแปรอักษรเป็นรูปธงชาติและวัตถุโบราณ (มีคลิป)
วันชาติของสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี กำลังจะเวียนมาบรรจบอีกครั้ง หนึ่งในไฮไลท์ของงานวันชาติคือการจุดพลุเฉลิมฉลองในช่วงกลางคืน ปีนี้จะย้ายไปจุดที่เมืองเจียอี้ ในอุทยานพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum) สาขาภาคใต้ เป็นเวลานานถึง 45 นาที ภายใต้สโลแกน “ร่วมด้วยช่วยกัน ปกป้องผืนแผ่นดินไต้หวัน”
ไฮไลท์ของปีนี้คือการใช้โดรน 500 ลำแปรอักษรเป็นรูปแจกันเซรามิกเก่าแก่และตัวอักษรจีนคำว่า 平安 ที่แปลว่า สวัสดิภาพ ซึ่งเป็นงานเขียนพู่กันจีนของหวังซีจือ (王羲之) นักเขียนพู่กันจีนระดับบรมครูในยุค 1700 กว่าปีที่แล้ว ตามด้วยรูปธงชาติสาธารณรัฐจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับพื้นที่สนามบาสเกตบอล 29 แห่งรวมกัน
นายสวี่โหยวเหริน (許有仁 ) ผู้อำนวยการกองการท่องเที่ยว เมืองเจียอี้ เปิดเผยว่า การแสดงพลุฉลองวันชาติปีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการผสมผสานการจุดพลุ น้ำพุเริงระบำและการแปรอักษรของโดรนเข้าด้วยกัน ส่วนเพลงที่ใช้ประกอบการแสดงพลุและการแปรอักษรของโดรนเป็นเพลงภาษาฮกเกี้ยนของนักร้องชื่อดังชาวไต้หวันอาทิ อู๋ป่าย (伍佰) และเย่ฉี่เถียน (葉啟田) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมอย่างคับคั่ง
สำหรับกำหนดการแสดงพลุฉลองวันชาติปีนี้จะเริ่มขึ้นในเวลา19.30 น.ของวันที่ 10 ตุลาคมนี้ และทำการจุดพลุในเวลา 20.00 น. โดยสถานที่จัดแสดงคือ ริมทะเลสาบจื้อซ่าน ภายในอุทยานพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติสาขาภาคใต้ เมืองเจียอี้
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:อัญชัน ทรงพุทธิ์
ใกล้ถึงพิธีเฉลิมฉลองวันชาติไต้หวัน ปธน.ไช่ฯ ขอบคุณที่กองทัพที่ปกป้องประเทศตลอด 24 ชั่วโมง
9 ต.ค.นี้ นครเถาหยวนจัดงานปาร์ตี้ฉลองวันชาติ ปชช.เถาหยวนเข้าร่วมงานลุ้นจับฉลากตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น
หยุดยาววันชาติไต้หวัน วนอุทยานแห่งชาติ 14 แห่ง ลดราคาตั๋วเข้าชม 50%
กรมป่าไม้ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการการเกษตร สภาบริหารไต้หวัน แถลงว่า เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติไต้หวันกรมป่าไม้จึงลดราคาตั๋วเข้าเที่ยวชมวนอุทยานแห่งชาติ 14 แห่ง 50% ในระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค.นี้ ประกอบด้วย ไท่ผิงซาน (太平山 Taipingshan), เน่ยโต้ง (內洞 Neidong), หม่านเยว่หยวน (滿月圓 Manyueyuan), ตงเหยียนซาน (東眼山 Dongyanshan), ต้าเสว่ยซาน (大雪山 Daxueshan), ปาเซียนซาน (八仙山 Basianshan), อ้าวว่านต้า (奧萬大 Aowanda), อาหลีซาน (阿里山 Alishan), เถิงจือ (藤枝Tengjhih), เขิ่นติง (墾丁 Kenting), ซวงหลิ่ว (雙流 Shuangliu), จือเปิ่น (知本Jhihben), ฟู่หยวน (富源 Fuyuan) และ ฉือหนาน (池南 Chinan) โดยหวังว่าประชาชนจะใช้โอกาสในช่วงวันหยุดออกมาเดินเที่ยวพักผ่อนชมความงดงามของธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วง และร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ที่เชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิตของมนุษย์ ซึ่งจัดขึ้นภายในวนอุทยานแห่งชาติด้วย
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:มนภรณ์ ไชยวุฒิ
ซ้อมการแสดงพลุวันชาติที่พิพิธภัณฑ์กู้กงภาคใต้ ประชาชนกว่า 1 หมื่นคนร่วมชมความงดงาม
งานเฉลิมฉลองวันชาติไต้หวันจัดในวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี โดยการจัดแสดงพลุวันชาติปีนี้ได้เมืองเจียอี้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งในรอบ 18 ปี และเมื่อวันที่ 20 ก.ย. เวลาประมาณ 19.30 น. ได้มีการซ้อมจัดแสดงพลุดอกไม้ ร่วมกับการแสดงแสงสีเสียงของน้ำพุเต้นระบำและโดรนแปรอักษรเป็นครั้งแรก ที่บริเวณลานฝั่งตะวันตกของพิพิธภัณฑ์กู้กง สาขาภาคใต้ ความยาว 3 นาที โดยมีประชาชนประมาณ 14,000 คน เข้ามาร่วมชมการซ้อมครั้งนี้ ซึ่งในวันจริงพลุดอกไม้ไฟความยาวถึง 45 นาที และมีวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตรามาร่วมบรรเลงดนตรีด้วย
เทศบาลเมืองเจียอี้เผยว่า ในการซ้อมแสดงพลุวันนี้ยังได้มีการซ้อมแผนรับมือฉุกเฉินด้วย โดยทำการระดมกำลังตำรวจดับเพลิง 47 นาย, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยดับเพลิง 12 นาย, รถดับเพลิง 13 คัน, เรือชูชีพ 2 ลำ, รถจักรยานยนต์ดับเพลิง 6 คัน และอุปกรณ์สองสว่างที่เกี่ยวข้องอีก 7 รายการ เพื่อตอบสนองต่อการรับมือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งในการฝึกซ้อมวันนี้ทุกอย่างผ่านพ้นเป็นไปด้วยความราบรื่น
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:มนภรณ์ ไชยวุฒิ